เปิดเส้นทางและทริคความสำเร็จ Hooray! นมไฮโปรตีน ยอดขายสูงสุดในร้านเซเว่นฯ

“โอกาสก็เหมือนอากาศ มันมีอยู่ทุกที่ เราจึงต้องพร้อมอยู่เสมอ” เป็นคำกล่าวของ เจน-ชัชณี พฤกษ์ศลานันท์ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ครอสแม็กซ์ รีเทล จำกัดหนึ่งในผู้ที่ร่วมนำทัพสร้างนวัตกรรมเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ Hooray!(ฮูเร่!ให้เป็นที่รู้จัก ในฐานะผลิตภัณฑ์นมโปรตีนสูงพร้อมดื่มเจ้าแรกของประเทศที่ปราศจากน้ำตาลแลคโตส

ปัจจุบัน Hooray! มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นสินค้าในกลุ่มนมโปรตีนสูงที่มียอดขายสูงสุดในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น โดยคาดว่าในปี 2566 บริษัทจะมีรายได้รวมทุกช่องทางขายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นแบรนด์ Protein of Asia ในอีก ปีข้างหน้า

“โอกาส” สร้างจุดเปลี่ยน

เจน เล่าย้อนความให้ฟังถึงที่มาของ Hooray! ว่า นับย้อนกลับไปเมื่อ ปีที่ผ่านมา (ปี 2558) Hooray! เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะปลดล็อกทุกข้อจำกัดของการทานเวย์โปรตีน ทั้งเรื่องรสชาติไม่ถูกปาก รสชาติไม่หลากหลาย ความยุ่งยากในการรับประทาน ต้องนำมาผสมน้ำเอง ตนและสามี (ต้น-วงษ์เดช เอี่ยวสานุรักษ์) จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์นมโปรตีนสูงพร้อมดื่มขึ้น โดยใช้เวลากว่า 1 ปีในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ควบคู่กับการทำวิจัย จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกคือ Hooray! Better Shake ผลิตภัณฑ์ที่นำไปสู่การพัฒนาเป็นสินค้าอื่นๆ ของบริษัท

“เราทำการตลาดผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง offline และ online อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าที่ควร เนื่องจากเราเป็น SME แบรนด์น้องใหม่ในตลาด กระทั่งได้มีโอกาสไปร่วมงาน THAIFEX ในปี 2560 ทำให้ได้มีโอกาสพบกับทีมบริหารผลิตภัณฑ์และจัดซื้อของทางเซเว่นฯ ที่มองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจสุขภาพในขณะนั้น ทางบริษัทจึงได้ร่วมพัฒนาสินค้ากับทางเซเว่นฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าสุขภาพ ที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย และหาซื้อได้ง่าย ในราคาที่ทุกคนสามารถหาซื้อรับประทานได้ จนได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ Hooray! Protein Shake สินค้าขายดีของแบรนด์ในปัจจุบัน”

การที่ Hooray! ได้รับโอกาสให้นำสินค้าเข้าจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ในปี 2564 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญแบบก้าวกระโดดของธุรกิจ ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีรายได้อยู่ที่หลักสิบล้านบาทต่อปี ก็ปรับเพิ่มเป็นหลัก 100 ล้านบาทต่อปี โดยในช่วง เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมของทั้งบริษัทอยู่ที่ 450 ล้านบาท

“นวัตกรรม” สร้างความต่าง

จากความมุ่งมั่นและตั้งใจของผู้ประกอบการคือต้องการให้ Hooray! เป็น Protein Expert แบรนด์ที่มีความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ไม่จำกัดเฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีคุณภาพ หาซื้อง่าย ในราคาที่จับต้องได้ และสิ่งสำคัญที่จะทำให้ไปสู่สิ่งนั้นได้คือ “นวัตกรรม” ที่นอกจากจะช่วยทำให้แบรนด์ก้าวสู่สิ่งที่หวังแล้ว ยังช่วยสร้างความต่างให้กับสินค้าอีกด้วย เพราะการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่โดยตรงอาจเป็นเรื่องยาก โดย Hooray! ขวด จะมีโปรตีนเทียบเท่านมธรรมดา 5 แก้ว จากการพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อนำสารอาหารที่ไม่จำเป็นอย่างเช่น ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ออก ทำให้ได้รับโปรตีนเต็มที่

บริษัทยังได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยตลาด เพื่อให้ได้ข้อมูลในการนำมาพัฒนาสินค้าอื่นๆ เช่น คนไทยกว่า 98% มีโอกาสแพ้น้ำตาล Lactose ในนม ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด ปวดท้อง ผายลมบ่อย คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือเกิดสิว จึงได้คิดค้นและผลิต Hooray! Protein Shake Lactose Free ขึ้น ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่สามารถผลิตนมโปรตีนสูงที่ปราศจากน้ำตาล Lactose โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยี Enzymatic เพื่อสกัดน้ำตาล Lactose ออกมา และมีโปรตีนสูง 29-31 กรัมต่อขวด ใน รสชาติ ได้แก่ รสช็อกโกแลตรสสตรอเบอร์รี, รสจืด, รสซอลท์เท็ด คาราเมล

แม้ Hooray! Protein Shake Lactose Free จะได้รับการตอบรับที่ดี จนก้าวสู่ผู้นำสินค้าในกลุ่มนมโปรตีนสูงที่มียอดขายสูงสุดในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แต่บริษัทก็ไม่ได้หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ ล่าสุด เทรนด์การบริโภคโปรตีนที่ได้จากพืชมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงได้คิดค้น Hooray! Complete Plant Protein ช่วยเพิ่มทางเลือกและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่มองหาสินค้ากลุ่มนมพืชโปรตีนสูง ที่มีโปรตีนเฉลี่ยอยู่ที่ 27-30 กรัมต่อขวด โดยโปรตีนพืชที่นำมาใช้ได้รับการรับรองจากห้องทดลองมาตรฐานระดับสากลว่าเป็น Complete Protein คือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบทั้ง ชนิด (Histidine, Leucine, Methionine, Threonine, Valine, Isoleucine, Lysine, Phenylalanine และ Tryptophan) มีส่วนผสมของ MCT Oil ที่ได้จากการสกัดจากน้ำมันมะพร้าว  ซึ่งเป็นไขมันดี มีรสชาติอร่อย ด้วยเทคโนโลยี การผลิตขั้นสูง ช่วยให้ได้รสชาติที่ทานง่าย ไม่เหม็นเขียว ลื่นคอ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการบริโภคสินค้าที่ทำมาจากสัตว์

“เปิดรับไอเดียคนรุ่นใหม่” สร้างการเติบโต

ต้องยอมรับว่า “กลุ่มคนรุ่นใหม่” ถือเป็นพลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจให้เติบโต บริษัทจึงไม่ปิดกั้นความคิดของกลุ่มคนรุ่นใหม่ สินค้าทุกตัวของบริษัท ตลอดจนกิจกรรมทางการตลาดที่หลายตัวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งก็มาจากความคิดกลุ่มคนรุ่นใหม่

“ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประมาณ 50-60 คน มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 35 ปี พนักงานทั้งหมดมีสิทธิ์ที่จะแสดงความสามารถและศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ บริษัทจึงไม่ปิดกั้นความคิดของพนักงาน เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความคิดและมุมมองที่น่าสนใจ อย่างเช่น กิจกรรมล่าสุด “Hooray! Good Vibes Only” ส่งต่อความสุขและรอยยิ้มให้กับลูกค้าผ่านฝาฟอยล์บนขวด โดยการส่งมอบข้อความดีๆไปยังผู้บริโภค ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ได้จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ พวกเขาไม่ได้คิดแค่ว่าบริษัทจะต้องโตเพียงฝ่ายเดียว แต่บริษัทควรที่จะมีส่วนในการช่วยส่งต่อพลังบวกกลับสู่สังคมด้วยเช่นกัน ให้สังคมยิ้มได้อย่างมีความสุข สอดคล้องกับ DNA ของแบรนด์ Hooray

จากเรื่องราวของ Hooray! ผ่านการบอกเล่าของเจน-ชัชณี พฤกษ์ศลานันท์ คงทำให้เห็นแล้วว่า การที่ผู้ประกอบการ SME จะยืนหยัดเคียงข้างผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดโมเดิร์นเทรดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างภาคภูมินั้น สินค้าต้องมีความต่าง และเครื่องมือในการสร้างความต่างที่ดีที่สุดคือการใช้ “นวัตกรรม” ควบคู่กับพลังของคนรุ่นใหม่มาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อน เมื่อผู้ประกอบการมีความพร้อมในทุกด้านแล้ว เมื่อใดที่โอกาสมาถึงก็จะสามารถคว้าไว้ได้ทันที เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

Post Views124 Views
Share this post