“แคทส์ ดอท คอม” ปรับกลยุทธ์รุกค้าปลีก ตั้งไทยเป็น HUB ขยาย DEALER ทั่วโลก!!

“แคทส์ ดอท คอม”  ธุรกิจขายตรงสัญชาติญี่ปุ่น ปรับกลยุทธ์ ดันผลิตภัณฑ์นวัตกรรมงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น “มะโฮ” รุกหาตัวแทนจัดจำหน่ายร้านยาทั่วประเทศ  จัดโปรโมชั่นท่องเที่ยวดูโรงงานผลิตที่ประเทศญี่ปุ่นร่วมงานฉลองครบรอบ 25 ปี เตรียมลุยโปรเจกต์ใหญ่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทยทำงานวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ พร้อมตั้งไทยเป็นฮับในการประสานงานกับตัวแทนในต่างประเทศทั่วโลก

เกียรติพงศ์ ตั้งงามจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคทส์ ดอท คอม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า  “แคทส์ ดอท คอม”  ธุรกิจขายตรงสัญชาติญี่ปุ่น เปิดดำเนินธุรกิจขายตรงในประเทศไทยมาแล้วกว่า 15 ปี  โดยมีสำนักงานใหญ่ประเทศไทยตั้งอยู่ที่ อาคารอิมพีเรียลลาดพร้าว ก่อนสถานการณ์โควิด – 19 ที่ผ่านมา บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการจัดจำหน่ายในรูปแบบค้าปลีกเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีแค่ช่องทางการทำธุรกิจแบบเครือข่ายเพียงอย่างเดียว หลังจากการปรับรูปแบบการทำธุรกิจที่เป็นระบบตัวแทน บริษัทมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวแทนที่เป็นร้านยาทั่วประเทศให้การตอบรับที่ดีมาก นอกจากนี้ ในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศกัมพูชาก็มีการเติบโตดีเช่นกัน เพราะบริษัทสามารถเจาะตลาดโรงพยาบาลได้ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์

“สำหรับการปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจในการหาเป็นระบบตัวแทนมากกว่าที่จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรงหรือเครือข่ายเพียงอย่างเดียวนั้น บริษัทมองว่าตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ธุรกิจขายตรงดูซบเซาอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจ เมื่อเทียบกับช่วงแรก ๆ ที่บริษัทเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นอกจากนี้การเข้ามาของตลาด E-commerce ทำให้นักธุรกิจมีทางเลือกและช่องทางการทำธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น สะดวกและรวดเร็วขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือพฤติกรรมของผู้บริโภคและคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีความสนใจในธุรกิจขายตรงอีกด้วย แต่ด้วยอานิสงส์ของบริษัทที่เป็นที่รู้จักทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นบริษัทที่นำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น  ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์  “มะโฮ” ที่มีงานวิจัยรองรับ ทำให้ได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี”

ด้านกลยุทธ์การตลาด เกียรติพงศ์ กล่าวต่อว่า  ในตอนนี้บริษัทเน้นการออกตลาดโดยการลงพื้นที่กระจายไปทุกภูมิภาค เพื่อสร้างตัวแทนใหม่ ๆ  ซึ่งเดิมตัวแทนของ “แคทส์ ดอท คอม”   ในประเทศไทย เป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายที่ทำธุรกิจกับบริษัทมาอย่างยาวนาน  โดยตอนนี้กว่า 80% ของการทำธุรกิจเป็นแบบระบบตัวแทนจัดจำหน่าย  บริษัทไม่เน้นการจัดประชุมสัมมนาเหมือนในอดีต แต่จะมีการเรียนรู้หรือให้คำปรึกษาตัวแทนผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก สำหรับธุรกิจขายตรงยังคงดำเนินธุรกิจอยู่เช่นเดิมแต่มีสัดส่วนประมาณ 20 %  ส่วนผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างยอดขายได้ดีลำตับต้น ๆ คือ ผลิตภัณฑ์ “มะโฮ” ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิด – 19 ที่ผ่านมา เพราะสามารถเข้าไปช่วยในการปรับภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้  ทำให้ช่วงที่ผ่านมาสามารถมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง   โดยในตอนนี้สำนักงานใหญ่มอบหมายให้ประเทศไทยจะเป็นฮับในการประสานงานในเรื่องของการหาตัวแทนใหม่ ๆ ทั่วโลก ซึ่งมีการติดต่อไปในหลายประเทศ  อาทิ จีน อินเดีย ฮ่องกง สิงคโป และในภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งมีการพัฒนาเว็บไซต์ของสำนักงานใหญ่ใหม่จากเดิมที่มีแต่ภาษาญี่ปุ่น โดยมีการเพิ่มภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับการเติบโตในต่างประเทศอีกด้วย

เกียรติพงศ์  กล่าวต่อว่า สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “มะโฮ” ประกอบด้วยเบต้ากลูแคน โครงสร้าง β-1,3-1,6 ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงยีสต์ดำสายพันธุ์ Aureobasidium มีลักษณะคล้ายเจล ผลิตด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงตามธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย สำหรับกระตุ้นระบบภูมิต้านทานโรคและดูแลสุขภาพ และสามารถทำยอดขายได้สูงสุดในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ “แคทส์ ดอท คอม”   ประเทศไทย เตรียมสร้างอีกหนึ่งโปรเจกต์ใหญ่ที่ร่วมกับโรงงานผลิต ในการนำผลิตภัณฑ์มาทำงานวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลในประเทศไทย โดยในตอนนี้บริษัทได้ติดต่อสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลในประเทศไทยหลายแห่งในการทำวิจัยผลิตภัณฑ์  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและตัวแทนจัดจำหน่าย ซึ่งจากเดิมที่มีงานวิจัยแต่จากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น คาดการณ์ว่าน่าจะดำเนินการเสร็จภายใน 1 ปี

นอกจากนี้ “บริษัทยังมีโปรโมชั่นท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในทุก ๆ ปี  เพื่อพาตัวแทนไปเที่ยวชมโรงงานผลิตในประเทศญี่ปุ่น และเพื่อเป็นการชาร์จพลังให้กับตัวแทน รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนอีกด้วย  โดยในปีนี้มีตัวแทนสามารถพิชิตโปรโมชั่นได้ประมาณ 40 ราย ซึ่งในปีนี้จะมีความพิเศษตรงที่เป็นการฉลองครบรอบ 25 ปี สำนักงานใหญ่ “แคทส์ ดอท คอม”  ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะออกเดินทางในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566” เกียรติพงศ์ กล่าวสรุป

Post Views11 Views
Share this post