“iTIC” ร่วมกับกระทรวงคมนาคมขับเคลื่อนการจราจรอัจฉริยะ แก้ปัญหาจราจร ลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืน

มูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย (Intelligent Traffic Information enter Foundation) หรือ iTICร่วมกับ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สมาคมระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะไทย และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนา“4th iTIC FORUM 2023: Power of Connectivity and Smart Mobility” เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้าน Connectivity and Smart Mobility ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยกระดับการพัฒนาระบบขนส่ง การจราจรอัจฉริยะและลดอุบัติเหตุในประเทศไทยแบบ real-time เนื่องจาก ประเทศไทยมีอุบัติเหตุเป็นอันดับ 9 ของโลก มีผู้เสียชีวิต 17,379 คน/ปี หรือ กว่า 48คน/วัน มีฝุ่นควันพิษมากเป็นอันดับที่ 30 ของโลก และกรุงเทพรถติดเป็นอันดับ 32 ของโลก

โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมกล่าวเปิดงานและปาฐกถา พิเศษ “ความพร้อมของการเชื่อมต่อ โครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย” ว่าการสัมมนาในครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่มุ่งเน้น 4 แนวทางหลักคือ 1. เปิดประตูการค้า การท่องเที่ยว ด้วยการพัฒนารถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ส่งเสริมและพัฒนระบบโครงข่ยทงถนนและทงพิเศษให้ครอบคลุมควมต้องกรเดินทงของประชชน และกรส่งเสริมพัฒนระบบกรขนส่งสินค้งน้ำที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ด้วยกรเพิ่มขีดควมสรถของท่เรือแหลมฉบัง ตลอดจนกรศึกษโครงกLand Bridge เชื่อมทะเลอันดมันและอ่วไทย 2.เน้นควมปลอดภัยลดอุบัติเหตุในกรเดินทงของประชชน 3.เพิ่มคุณภพชีวิตที่ดีและลดต้นทุนในกรเดินท 4. เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น Green Transport ลดกรปล่อยคร์บอนไดออกไซด์และ PM 2.5 โดยส่งเสริมกรใช้พลังงนทงเลือกในการเดินทง รวมทั้งกรบูรณร ร่วมกับหน่วยงนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในกรแก้ไขปัญหรจรจร กระทรวงคมนาคมได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บริการครอบคลุมการเดินทางอาทิ รถไฟใต้ดินบนดิน ในกรุงเทพมหนครและปริมณฑล ปัจจุบันเปิดให้บริกรทั้งสิ้น 12 เส้นทง ระยะทงรวม 276.84 กิโลเมตร ถนนงหลวง ทงหลวงชนบท และทงหลวงท้องถิ่น รวมระยะท707,364.25 กิโลเมตร

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย (Intelligent Traffic Information enter Foundation) หรือ “ iTIC กล่าวว่า มูลนิธิฯ พร้อมระดมพลังความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนขับเคลื่อนข้อมูล Big Data ระหว่างหน่วยงานต่างๆ นำมาประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูลแก้ปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุ แบบ real-time เช่น การปิดจราจร, อุบัติภัย, ไฟไหม้, เมฆฝน, และน้ำท่วม ภัยพิบัติ, หรือแม้กระทั่ง ฝุ่น PM2.5 ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สคัญ มีการแจ้งเตือนการเกิดอุบัติเหตุ ให้ผู้ขับขี่ที่เดินทางไปในบริเวณรัศมี 5 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุด้วย ทั้งนี้ iTICรายงานข้อมูลแบบ real time traffic โดยใช้ข้อมูลจาก Vehicle Probe กว่า 100,000 คัน วิ่งอยู่ทั่วประเทศมาประมวลผล แสดงบน Digital Map มีกล้อง CCTV รวมทั้งหมด 282 กล้อง อนาคตมีแผนขยายการเชื่อมต่อกล้อง CCTV จากเทศบาลเมืองภูเก็ต อุดรธานี หนองคาย เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัด กล้อง CCTV นอกจากใช้ประโยชน์ในการดูสภาพจราจรแบบ

real time แล้ว ยังใช้ในการวิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุมีการเสนอจุดฝืดของจราจร 20 จุดใน กทม. และจุดเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุที่ กทม. และที่ฉะเชิงเทรา

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  กล่าวถึง แนวคิดใหม่ในการสัญจรของคนกรุง” การเดินทางที่ดีเป็นนโยบายของกทม. ที่มุ่งเน้นให้ผู้คนเดินทางให้เกิดความสะดวกสบายและปลอดภัย แต่ปัจจุบันยังพบว่าปัญหาการเดินทางของประชาชน คือ การเชื่อมต่อจุดหมายปลายทางของการเดินทาง บางเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้ายังไปไม่ถึง ที่ผ่านมากทม.ได้มีการทำแพลตฟอร์ม Traffic Fongdu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแจ้งเรื่องร้องเรียนถึงปัญหาต่างๆของประชาชนในกรุงเทพฯ ประมาณ 300,000 เรื่อง พบว่าปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามาส่วนใหญ่ คือ เรื่องปัญหาการเดินทางถนนและปัญหาบนทางเท้า ทั้งนี้กทม.มีแผนจะปรับปรุงทางเท้าใหม่ โดยใช้มาตรฐานใหม่ในการก่อสร้างทั้งวัสดุผิวทางเท้า,คอนกรีตเสริมเหล็กหนาประมาณ 10 ซม. ทั้งยังมีแผนดำเนินการก่อสร้างทางเดินสำหรับกันแดดและการฝนเพื่อเชื่อมต่อป้ายรถประจำทางและสถานีรถไฟฟ้า นอกจากนี้ขณะเดียวกันกทม.ยังมีโครงการแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯด้วยการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ (ATC) โดยเป็นการนำข้อมูล Probe Data มาใช้ในพื้นที่โครงการ ซึ่งจะช่วยลดความล่าช้าการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนลง 10% และลดความล่าช้าการเดินทางนอกชั่วโมงเร่งด่วนลง 30% โดย กทม.มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาจุดฝืด-จุดรถติด เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและลดอุบัติเหตุในกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน  

นอกจากนี้ภายในงานสัมมนาช่วงเช้ามีการบรรยาย ดังนี้ โดยได้รับเกียรติจาก Vehicle Information and Communication Systems (VICS) แล IntelligentTransportation Society of Taiwan (ITS Taiwan) มาแชร์ประสบการณ์ความสเร็จในการแก้ปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตลอดจนเทคโนโลยีการเดินทางอัจฉริยะ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA)  จะพูดถึง “ศักยภาพของเอกชนไทยในการขับเคลื่อนสมาร์ทโลจิสติกส์ รถ-เรือ-ราง” ด้วย Green Transportation

จากนั้นจะเป็นช่วง เสวนา นำโดย ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในหัวข้อ “โอกาสของไทยในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งภูมิภาคเชื่อมไทยเชื่อมโลก” สร้างระบบFeeder ไปยังสถานีขนส่งมวลชนได้อย่างไร โดยมีกรมการขนส่งทางราง, การรถไฟแห่งประเทศไทย, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเสวนา

ในช่วงบ่าย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรศ.ดร. วิศณุ ทรัพย์สมพล จะนำเสนอ “แนวคิดใหม่ในการสัญจรของคนกรุง” จากนั้น บริษัท .การช่าง โดยดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ จะมาพูดเรื่อง “การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางอัจฉริยะและสังคมที่ยั่ยืนในประเทศไทย”

บริษัท ไอโออิ กรุงเทพ ประกันภัย โดย คุณ ฮิเดโอะอิวาซาวะ จะมาพูดถึงการใช้ข้อมูลในการสร้างคุณค่าร่วมกันและเสวนา นำโดย นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข พูดถึงประสบการณ์และยกตัวอย่างการลดอุบัติเหตุและช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บบนถนน ของจังหวัดขอนแก่น Model ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ว่าทอย่างไร โดยมี กรมทางหลวง, กรมทางหลวงชนบท, กรมการขนส่งทางบก ร่วมเสวนา

สุดท้ายเป็นการเสวนาหัวข้อ “พลังของข้อมูลในระบบคมนาคมขนส่ง สู่อนาคต” นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการโดยผู้สนับสนุนหลัก, SME และ Start up ถึง 30 บูท ปิดท้ายด้วย Big Surprise  ช่วงท้ายของงานโดยมีผู้สนใจทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนกว่า 300 รายเข้าร่วมงานสัมมนาดังกล่าว

Post Views44 Views
Share this post