สตีเบล เอลทรอน ชี้เทรนด์สมาร์ทซิตี้และเวลเนส ดันดีมานด์อาคารสีเขียวไทยพุ่ง 55% ต่อปี

สตีเบล เอลทรอน (Stiebel Eltron) ผู้นำด้านนวัตกรรมอำนวยความสะดวกจากประเทศเยอรมนี ชี้อาคารสีเขียวในประเทศไทยมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากกระแสการพัฒนาเมืองเพื่อความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ประกอบกับความตื่นตัวในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค จึงแนะนำอาคารและโครงการอสังหาริมทรัพย์ติดตั้งเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศรุ่น VLR 70 S ที่ช่วยลดความอับชื้นและเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศบริสุทธิ์ภายในห้อง พร้อมกรองมลภาวะและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดรับกับเกณฑ์ด้านคุณภาพอากาศตามมาตรฐานอาคารสีเขียว พร้อมยกระดับสุขภาวะของผู้ที่อยู่ในอาคารอย่างครบวงจร

นายโรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย กล่าวว่า “ปัจจุบัน ‘อาคารสีเขียว’ ถือเป็นเมกะเทรนด์สำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2569 จากกระแสการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ความตระหนักด้านความยั่งยืน ตลอดจนความต้องการที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงานที่ช่วยส่งเสริมสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน โดยงานวิจัยของ Eurogroup Consulting ระบุว่า ผู้บริโภคคนไทยกว่า 70% ต้องการอาศัยหรือทำงานในอาคารที่มีสภาพแวดล้อมดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการต่างให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารสีเขียว เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานระยะยาว เสริมภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) แนวโน้มดังกล่าวคาดว่าอาคารสีเขียวในประเทศไทยจะมีการเติบโตเฉลี่ยราว 54% ต่อปี”

สำหรับอาคารสีเขียว เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารจัดการโดยคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน โดยประเทศไทยมีการประเมินอาคารสีเขียวตามมาตรฐาน TREES (Thailand Rating of Energy and Environmental Sustainability) ของสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการอาคาร ทำเลที่ตั้ง วัสดุและนวัตกรรมการก่อสร้าง การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการประหยัดพลังงานและน้ำ อีกองค์ประกอบสำคัญของมาตรฐาน TREES คือระบบจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร เนื่องจากอาคารสมัยใหม่มักมีโครงสร้างปิดทึบ ทำให้การถ่ายเทอากาศไม่เพียงพอ นำไปสู่ความอับชื้น การสะสมของเชื้อรา รวมถึงระดับออกซิเจนที่ต่ำ ซึ่งล้วนส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงการลดฝุ่นควันจากภายนอก โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงกว่าค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ดังนั้น อาคารหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหรือปรับปรุงสู่มาตรฐานอาคารสีเขียว จึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ช่วยหมุนเวียนและปรับคุณภาพอากาศให้เหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน TREES

ในฐานะผู้นำโซลูชันเพื่อคุณภาพชีวิต สตีเบล เอลทรอน ได้นำเสนอ “เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศรุ่น VLR 70 S” ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพอากาศตามมาตรฐานอาคารสีเขียว โดยการดูดอากาศอับชื้นและมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สูงออกจากห้อง พร้อมดึงอากาศจากภายนอกอาคารที่มีออกซิเจนสูงเข้ามาเติมเต็มในห้อง ช่วยให้อากาศปลอดโปร่งและสดชื่นโดยไม่ต้องเปิดหน้าต่าง อีกทั้งยังสามารถกรองมลภาวะ ฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ถึง 95% นอกจากนี้ยังใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงเล็กน้อย และมีระบบปรับอุณหภูมิอากาศจากภายนอกให้เย็นลงเพื่อช่วยลดภาระการใช้งานเครื่องปรับอากาศด้วยฮีตเอ็กเชนเจอร์ (Heat Exchanger) สำหรับตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ดีไซน์สีขาวแบบมินิมอล ทำงานโดยมีเสียงรบกวนต่ำ และติดตั้งได้โดยไม่ต้องเดินท่ออากาศภายในอาคาร จึงเหมาะกับอาคารทุกประเภท ทั้งสำนักงาน อาคารพาณิชย์ บ้าน และคอนโดมิเนียม ที่มุ่งสู่การเป็นอาคารสีเขียวอย่างครบวงจร

“จากการขยายตัวของอาคารสีเขียว ส่งผลให้ยอดขายเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศรุ่น VLR 70 S มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยนอกจากแรงขับเคลื่อนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อีกปัจจัยสำคัญที่หนุนดีมานด์ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคือสถานการณ์มลภาวะทางอากาศและฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมดังกล่าวนอกจากความโดดเด่นด้านการจัดการฝุ่นควันและมลภาวะจากอากาศแล้ว ยังตอบโจทย์ด้านการดูแลสุขภาวะแบบองค์รวม ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ระยะยาวของผู้บริโภคไทย ทำให้มั่นใจว่านวัตกรรมดังกล่าวจะได้รับความนิยมในวงกว้างต่อไปในอนาคต สตีเบล เอลทรอน จึงพร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในฐานะผู้นำโซลูชันอำนวยความสะดวกจากประเทศเยอรมนี ที่มุ่งส่งมอบความสะดวกสบายผ่านเทคโนโลยีทันสมัยแก่ลูกค้าทั่วโลก” นายโรลันด์กล่าวสรุป

Share this post