“Wingstop” บุกไทยสาขาแรก MBK ดัน “เนม–ปราการ” นั่ง Wingstop Bro ลุยเปิดเพิ่ม 5–6 สาขา ปี 2026

วิงสต๊อป (Wingstop)” แบรนด์อาหารชื่อดังระดับโลก เดินหน้าบุกตลาดไทยอย่างเป็นทางการด้วยการเปิดสาขาแรกที่ MBK Center ชั้น 2 หลังจากสร้างปรากฏการณ์มาแล้วใน 18 ประเทศ กว่า 3,000 สาขาทั่วโลก ประกาศจุดยืนที่แตกต่าง “เราไม่ใช่ธุรกิจไก่ทอด แต่เป็นธุรกิจแห่งรสชาติ” (flavour business) พร้อมนำประสบการณ์ด้านรสชาติในแบบฉบับของ Wingstop กว่า 9 รสมาเสิร์ฟให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00–02.00 น. พร้อมเปิดกลยุทธ์เดินเกมเต็มกำลัง โดยตั้งเป้าเป็นแบรนด์ Top of Mind ของคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z ในปัจจุบัน พร้อมวางแผนขยายเพิ่ม 5-6 สาขาภายในปี 2026  โดยมี “เนม-ปราการ ไรวา” ที่รู้จักกันในฐานะนักร้องนำวง Getsunova ขึ้นแท่นผู้บริหารธุรกิจเต็มตัวครั้งแรก

คุณปราการ  ไรวา ผู้บริหารแบรนด์วิงสต๊อปประเทศไทย หรือ Wingstop Bro กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ผมสนใจ แบรนด์ Wingstop เป็นพิเศษ ไม่ได้เกิดจากชื่อเสียงระดับโลก หรือความสำเร็จกว่า 3,000 สาขาใน 18ประเทศเท่านั้น แต่เริ่มจากความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสรสชาติของแบรนด์ที่มีความเข้มข้น สนุก และมีเอกลักษณ์ในแบบที่หาไม่ได้จากแบรนด์อื่น โดยมีแก่นของแบรนด์ที่ชัดเจนมากว่าไม่ได้เป็นแค่แบรนด์ไก่ทอดดังประโยคติดร้าน “We’re not in the wings business. We’re in the flavour business.” เพราะเราเชื่อว่ารสชาติไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่เป็น “ประสบการณ์” ที่ทำให้ชีวิตของผู้คนมีรสชาติพิเศษขึ้นในทุกๆวัน ผ่านรสชาติที่แบรนด์นำเสนอด้วยความกล้า ชัดเจน และเต็มไปด้วยคาแรกเตอร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ Wingstop จะมีฐานลูกค้าทั่วโลก เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่คนรุ่นใหม่ทั้งโลกเทใจให้ แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็เคยมีกระแสคนรักแบรนด์นี้เรียกร้องอยากให้ Wingstop มาเปิดในประเทศไทยตั้งแต่ยังไม่เปิดบริการด้วยซ้ำ”

กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย

การนำ Wingstop มาสู่ประเทศไทยจึงไม่ใช่แค่การถ่ายทอดวัฒนธรรมรสชาติระดับโลกหรือการนำสูตรสำเร็จจากต่างประเทศไทยมาใช้ แต่คือการออกแบบประสบการณ์ให้เข้ากับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของคนไทยรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งทำให้เกิดเป็น กลยุทธ์ 4 ข้อหลักที่วางขึ้นเพื่อให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืนประเทศไทย ดังนี้

1.กระบวนการทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่ (ConZmer Centric)  สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของ Wingstop ดังนั้นแบรนด์จึงออกแบบกระบวนการทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่จากอินไซต์จริง เช่น การจับมือร่วมกับนักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง หลักสูตร  Design, Business & Technology Management กว่า 80 คน เพื่อเรียนรู้ไม่เพียงแค่พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ แต่ทำความเข้าใจลึกลงไปถึงความคิดและวัฒนธรรม (Mindset & Culture) ของคนรุ่นใหม่ ความคิดเห็นต่อผลิตภัณฑ์และภาพลักษณ์ของแบรนด์ ฯลฯ เพราะ Wingstop ไม่ได้ต้องการทำแบรนด์เพื่อคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ต้องการสร้างแบรนด์จากคนรุ่นใหม่จริงๆ

2.กลยุทธ์ผู้นำด้านรสชาติ (Flavour Pioneers) หัวใจของ Wingstop คือการเป็นธุรกิจแห่งรสชาติ (“We’re in the flavour business”) ดังนั้นทุกอย่างจึงเริ่มต้นจากรสชาติเป็นศูนย์กลาง

2.1 ความหลากหลายของรสชาติ (Variety) เพราะแต่ละคนมีชีวิต เรื่องราว และ ความชอบที่แตกต่างกันWingstop จึงออกแบบให้แต่ละรสมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของทุกคน ซึ่งเริ่มต้นเปิดตัวในประเทศไทยด้วย 9 รสชาติ 3 ระดับความเผ็ด

  • NO HEAT

1.การ์ลิก พาร์เมซาน (GARLIC PARMESAN)

2.เลมอน เปปเปอร์ (LEMON PEPPER)

3.ฮิกคอรี สโมก บาร์บีคิว (HICKORY SMOKED BBQ)

  • SOME HEAT

4.ฮอท ฮันนี่ รับ (HOT HONEY RUB)

5.หลุยเซียน่า รับ (LOUISIANA RUB)

6.เท็กซัส บัฟฟาโล (TEXAS BUFFALO)

  • ALL THE HEAT

7.แมงโก ฮาบาเนโร (MANGO HABANERO)

8.อินเฟอร์โน (INFERNO)

9.อะตอมมิค บลาสต์ (ATOMIC BLAST)

ทั้งหมดนี้มีตั้งแต่รสชาติยอดฮิตที่คัดมาแล้วว่าโดนใจมหาชน ไปจนถึงรสชาติแปลกใหม่สุดท้าทาย เพื่อมอบประสบการณ์รสชาติความอร่อยแบบที่คนไทยไม่เคยสัมผัสจากที่ไหนมาก่อน

2.2 มาตรฐานระดับโลก (Standardized) รสชาติของ Wingstop ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากแฟนๆ ทั่วโลกจนเกิดเป็นความชื่นชอบ ดังนั้น เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์แบบเดียวกับทุกประเทศ จึงยึดมาตรฐานการผลิตและคุณภาพที่เข้มข้นเหมือนกันทั่วโลก เพื่อให้ “รสชาติของ Wingstop” เป็นรสชาติระดับสากล ไม่ว่ารับประทานที่ใดบนโลกก็เป็นรสชาติเดียวกัน

3.ระบบปฏิบัติการแบบมาตรฐานโลก (Process & Operation: Global Standardized)  รสชาติที่ดีเริ่มจากระบบที่ดี Wingstop จึงให้ความสำคัญกับหลังบ้านที่แข็งแรง ผ่านการวางมาตรฐานด้าน กระบวนการทำงาน ระบบการจัดการควบคุมคุณภาพการฝึกอบรมทีมงานมาตรฐานสากลเพื่อให้ประสบการณ์ของลูกค้าในไทย “เสมอต้นเสมอปลาย”  ไม่ว่าจะเข้าร้านวันไหน เวลาไหน หรือสาขาใด ก็ต้องได้รสชาติและบริการแบบเดียวกับทั่วโลก เพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายสาขาในอนาคตอย่างราบรื่น

4.การทำแบรนด์และการตลาด (Strengthening Brand & Marketing)  เพื่อให้ Wingstop เติบโตเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z ในปัจจุบัน แบรนด์ได้วางแนวทางด้านการตลาดบนสองแกนหลัก ดังนี้

4.1 การสร้างคัลเจอร์ของแบรนด์ (Culture) การทำการตลาดต้องโดดเด่นและแตกต่าง (Unique & Bold) เพื่อสร้างคัลเจอร์ของแบรนด์ให้เกิดขึ้นจริงในไทย เราเชื่อว่า Gen Z ไม่ใช่แค่กลุ่มอายุ แต่คือคัลเจอร์ที่กำลังก่อตัว (Gen Z is a culture, and it’s forming) และ Wingstop ต้องเป็นส่วนหนึ่งของคัลเจอร์นี้ หรือเป็นพื้นที่ในการทำให้วัฒนธรรมนี้เติบโต ผ่านกิจกรรมและเนื้อหาที่สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่ สิ่งที่แบรนด์ได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่คือ Gen Z ไม่ได้มีแบบเดียว ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน หรือมีไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกันหมด แต่ความงดงามของ Gen Z คือความหลากหลายของการมีซับคัลเจอร์ ซึ่งแบรนด์มีหน้าที่เรียนรู้และทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่

4.2 กลยุทธ์ที่ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) Wingstop ให้ความสำคัญกับการฟังเสียงของผู้บริโภค และนำอินไซต์มาพัฒนาการตลาดที่จับต้องได้ ผ่านการปฏิสัมพันธ์ที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ไม่ใช่เพียงผู้รับสาร หรือเป็นเพียงผู้เฝ้าดูแบรนด์อย่างเดียว แต่ Gen Z พร้อมจะมีความคิดเห็นสะท้อนมายังแบรนด์ได้เสมอ ดังนั้น ตั้งแต่ Wingstop ยังไม่เปิดบริการอย่างเป็นทางการ เราได้ทำกิจกรรมที่ทำให้ประสบการณ์จากแบรนด์เป็นสื่อกลางในการสะท้อนความคิดเห็นของ Gen Z และแบรนด์นำมาปรับตัวอยู่เสมอ เช่น ป้ายพูดได้ (Hoarding Talking) ที่นอกจากจะทำหน้าที่สื่อสารว่า Wingstop จะมาเปิดบริการในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นป้ายที่ตั้งใจสร้างบทสนทนาของ Gen Z ในโซเชียลมีเดียที่มีต่อแบรนด์ เมื่อแบรนด์ทราบว่าแฟนๆ Wingstop ตื่นเต้นที่แบรนด์จะมาเปิดบริการในประเทศไทยเสียที แต่ไม่อยากรอนาน ป้ายนี้จึงสื่อสารกลับไปว่าแบรนด์ได้ยินแล้วว่าแฟนๆ ไม่อยากรอนานข้ามปี เดี๋ยวแบรนด์จัดให้ เพื่อให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมและรู้สึกว่า Wingstop เป็นแบรนด์ที่สร้างมาจากเสียงของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นพื้นที่ในการสร้างรสชาติของประสบการณ์ร่วมกัน และถือเป็นการเปิดเกมธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ยังไม่เปิดร้านอย่างเป็นทางการ จนทำให้เกิดกระแสตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นป้าย

การเปิดตลาดไทยในครั้งนี้ Wingstop ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 5-6 แห่งภายในปี 2026 และมุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์ Top of Mind ของคนรุ่นใหม่ เพื่อปูรากฐานให้แบรนด์เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว โดยแบรนด์เชื่อว่าการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ต้องเกิดจากการฟังเสียงผู้บริโภคอย่างแท้จริง แบรนด์จึงตั้งใจทำให้กิจกรรมต่าง ๆ เป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น และรู้สึกเป็นเจ้าของประสบการณ์ของแบรนด์ร่วมกัน เพื่อให้ Wingstop ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เป็นแบรนด์ที่เติบโตไปพร้อมกับผู้บริโภคทุกคน

Wingstop ขอเชิญชวนทุกคนมาลอง “Bring the flavour” ในแบบของตัวเอง ได้ที่ Wingstop สาขาแรก MBK Center ชั้น 2 ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00–02.00 น. มาพิสูจน์รสชาติที่ครองใจผู้คนทั่วโลกที่ในที่สุดก็เดินทางมาถึงประเทศไทย

Post Views83 Views
Share this post