Crescendo Lab ผู้นำด้าน SaaS ในเอเชีย เผยโรดแมป “AI-First Communication Cloud” สำหรับธุรกิจองค์กรไทยอย่างเป็นทางการ เดินหน้าตอบโจทย์ธุรกิจในยุค AI ที่กำลังเผชิญปัญหา “AI Island Effect” หรือการใช้ AI แบบกระจัดกระจาย ขาดการเชื่อมโยงข้อมูลและเครื่องมืออย่างแท้จริง
ตามผลการศึกษาของ McKinsey ปี 2025 ที่ระบุว่ากว่า 78% ขององค์กรทั่วโลกเริ่มใช้งาน AI แล้ว แต่ยังติดข้อจำกัดด้านการบูรณาการข้อมูล เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว Crescendo Lab จึงเปิดตัว 3 แพลตฟอร์มสำคัญ ได้แก่ MAAC (Marketing & Automation AI Cloud), CAAC (Conversational & Agent AI Cloud) และ DAAC (Data & Analytics AI Cloud) เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้า เข้าสู่กระบวนการทำงานแบบเรียลไทม์ครบวงจร ช่วยให้องค์กรไทยก้าวข้ามข้อจำกัดด้านข้อมูลในยุค AI
Crescendo Lab เผยโรดแมป “AI-First Communication Cloud” ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล AI
จิน เสวีย(JinHsueh), ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Crescendo Lab กล่าวว่า Crescendo Lab มองไกลกว่าโซลูชัน AI ที่โฟกัสเพียงด้านเดียว (single-point solutions) โรดแมป “AI-First Communication Cloud” จึงเกิดจากวางเป้าหมายหลัก 3 มิติที่ทรงพลังภายในปี 2569 ได้แก่
1.Master Precision Marketing: ยกระดับการตลาดแบบแม่นยำ ส่งข้อความที่ใช่ ไปยังลูกค้าที่ใช่ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
2.Real-time Sales & Service: เสริมศักยภาพทีมขายและบริการลูกค้า ให้ตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ในทุกจังหวะสำคัญของการสนทนา เพื่อเพิ่มยอดขายและอัตราการปิดการขาย
3.AI-driven Data Action: แปลงข้อมูลที่กระจัดกระจายให้เป็นข้อแนะนำเชิงธุรกิจที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจและการลงมือทำขององค์กรได้ทันที
ทั้งนี้จากฐานข้อมูล Metabase ของ Crescendo Lab พบว่าแคมเปญบรอดแคสต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถสร้างผลตอบแทนการใช้จ่ายค่าโฆษณา หรือ ROAS ได้สูงขึ้นถึง 4.9 เท่า และมีอัตราเปิดข้อความหรือ Open Rate สูงกว่าเดิมถึง 2.6 เท่า แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจ
Crescendo Lab เปิดตัว 3 แพลตฟอร์ม AI เริ่มทยอยใช้งานจริงในปี 2569
เพื่อให้เป็นไปตาม โรดแมป “AI-First Communication Cloud” Crescendo Lab ได้เปิดตัว 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ MAAC , CAAC และ DAAC โดยทั้ง 3 แพลตฟอร์มสามารถใช้งานร่วมกันได้แบบ ‘AI All-in-one Solution’ เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้า เข้าสู่กระบวนการทำงานแบบเรียลไทม์ครบวงจร ช่วยให้องค์กรไทยก้าวข้ามข้อจำกัดด้านข้อมูลในยุค AI
MAAC : ผู้ช่วยวางกลยุทธ์การเติบโตด้านการตลาดของทุกองค์กร
MAAC ช่วยให้องค์กรก้าวสู่การทำการตลาดอย่างแม่นยำตามหลัก 4R ได้แก่ คนที่ใช่ (Right person)เวลาที่เหมาะสม (Right time) ในช่องทางที่ถูกต้อง (Right channel) และคอนเทนต์ที่ตรงใจ (Right message)โดย Crescendo Lab นำ AI เข้ามาเสริมพลังให้ MarTech ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการลูกค้าอัตโนมัติ การทำ Segmentation เชิงลึก ไปจนถึงการสร้างคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ ภายในปี 2569 MAAC จะเปิดตัว AI Portal ศูนย์กลางบังคับการด้าน MarTech ที่รวบรวมฟังก์ชัน AI ไว้ในที่เดียว ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำ Segmentation ออกแบบ Customer Journey แบบอัตโนมัติ และสร้างคอนเทนต์ได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนมี “Growth Architect” ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำงานอยู่เคียงข้างในทุกองค์กร
CAAC : พลิกโฉมทีมขายและทีมบริการลูกค้าสู่ Super Agents
ในแต่ละเดือนมีธุรกิจจำนวนมากในทั่วทุกภูมิภาคต้องรับมือกับข้อความลูกค้าสูงกว่า 16,000 ข้อความต่อเดือน เพื่อรองรับกับการจัดการข้อความจำนวนมหาศาลเหล่านี้ Crescendo Lab จึงได้พัฒนา CAAC ซึ่งมี AI Agents ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเฉพาะกิจ สามารถตอบคำถามที่พบบ่อยแทนมนุษย์ได้สูงสุดถึง 80% ด้วยคลังความรู้ที่ผ่านการยืนยันความถูกต้อง สำหรับบางเคสที่ยังต้องอาศัยทีมงานมนุษย์ CAAC จะช่วยแนะนำคำตอบหรือสินค้าที่เหมาะสมกับลูกค้า พร้อมสร้างสรุปการสนทนาอัตโนมัติ ข้อมูลเหล่านี้ยังถูกส่งต่อกลับไปยัง MAAC เพื่อสร้างวงจรข้อมูลลูกค้าที่ครบถ้วนจาก “การบริการลูกค้า” ไปสู่ “การทำ remarketing”
DAAC: ที่ปรึกษาด้านข้อมูลด้วย AI 24 ชั่วโมง ค้นหา Insight และลงมือทำอัตโนมัติ
DAAC คือแพลตฟอร์ม AI-native ใหม่ล่าสุดจาก Crescendo Lab ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยรวบรวมข้อมูลจากแท็กข้อมูลลูกค้า บันทึกการสนทนา และแคมเปญการตลาด เพื่อนำมาเปิดเผย “Critical Insights” ที่สำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ DAAC ยังสามารถเสนอ “Recommended Actions” ที่คลิกเพื่อเริ่มใช้งานได้ทันที ช่วยย่นระยะเวลาการวิเคราะห์ข้อมูลและการดำเนินกลยุทธ์ จากเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายวัน เหลือเพียงไม่กี่นาที หรือไม่เกิน 3 นาทีโดยส่วนมาก แพลตฟอร์มนี้ถูกผสานอย่างแนบแน่นกับ Ecosystem ของ Crescendo Lab เมื่อทำงานร่วมกับ MAAC จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากทุกช่องทางเพื่อต่อยอดสู่การตลาดอัตโนมัติ และเมื่อเชื่อมกับ CAAC จะมอบมุมมองลูกค้า 360° แบบเรียลไทม์ เพื่อเปิดบทสนทนาที่เฉพาะบุคคล หรือ personalized มากขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ธุรกิจเคลื่อนจาก “การค้นหาโอกาส” ไปสู่ “การลงมือทำจริง” ได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม และยกระดับสู่การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง
Crescendo Lab พาร์ตเนอร์การเติบโตชั้นนำสำหรับองค์กรเอเชียในยุค AI
ปัจจุบันมีองค์กรชั้นนำจำนวนมากในประเทศไทยที่เลือกใช้โซลูชันการสื่อสารทางธุรกิจที่มีเสถียรภาพและครบวงจรของ Crescendo Lab และบริษัทฯ ยังได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก LINE Thailand ให้เป็น “Expert Developer Partner” อีกด้วย ภายใต้โครงการ “LINE DEVELOPER PARTNER” พันธมิตรที่ได้รับการรับรองจะได้รับความรู้และทักษะเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญของ LINE การสนับสนุนด้านการตลาด รวมถึงโอกาสในการร่วมโครงการกับพันธมิตรทางธุรกิจทั่วประเทศ นอกจากนี้ Crescendo Lab ยังได้นำประสบการณ์จากการสื่อสารทางธุรกิจกว่า 7 พันล้านครั้ง ผสานเข้ากับเทคโนโลยี AI เพื่อสร้าง ecosystem ในประเทศที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ความสำเร็จนี้สะท้อนผ่านกรณีศึกษาที่น่าสนใจจากหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศไทย ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นความเข้าใจลูกค้ามาตลอด 55 ปี และมีโครงการครอบคลุมตั้งแต่ Luxury Villa บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ไปจนถึงคอนโดมิเนียม แบรนด์อสังหาริมทรัพย์รายนี้ได้เลือกใช้ AI Smart Sending จาก Crescendo Lab เพื่อยกระดับการสื่อสารกับลูกค้าบน LINE Official Account แม้จะส่งข้อความถึงลูกค้าทั้งหมดโดยไม่ได้แบ่งกลุ่มแบบ Personalized แต่ด้วยศักยภาพของ AI ที่สามารถวิเคราะห์และเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการส่งข้อความให้กับลูกค้าแต่ละราย ทำให้แบรนด์สามารถเพิ่มอัตราการเปิดข้อความ (Open Rate) จาก 15% เป็น 25% และสูงสุดถึง 30% ได้อย่างน่าประทับใจ สำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่สินค้ามีมูลค่าสูงและการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย ความสำเร็จในการสร้าง Open Rate ถึง 30% ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ตอกย้ำว่า AI Smart Sending ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพการสื่อสาร แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าประหยัดเวลาในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดในทุกข้อความที่ส่งออกไปได้อย่างแท้จริง
จิน เสวีย(JinHsueh), ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Crescendo Lab กล่าวเพิ่มเติมว่า Crescendo Lab ไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชัน AI เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับ AI Transformation, Governance และ Security ผ่านระบบควบคุมสิทธิ์การใช้งาน (Permission Controls) ฟังก์ชันย้อนเวอร์ชัน (Version Rollbacks) และ Workflow สำหรับดูแลคลังความรู้ (Knowledge Maintenance) เพื่อให้องค์กรใช้งาน AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย นอกจากนี้บริษัทยังเปิดให้บริการ Enterprise-Grade AI Advisory Service บริการให้คำปรึกษาด้าน AI สำหรับธุรกิจระดับองค์กร เพื่อช่วยองค์กรในการบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูล การติดตั้งใช้งานเครื่องมือ และการอบรมทีมงานภายใน สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ครบถ้วนและปลอดภัยสำหรับธุรกิจ “เป้าหมายของเราคือการยกระดับ AI SaaS จาก ‘เครื่องมือ AI เฉพาะด้าน’ ให้กลายเป็น ‘ทีมขับเคลื่อนการเติบโตด้วย AI’ ขององค์กร ซึ่ง‘AI All-in-one Solution’และโรดแมป AI-First Communication Cloud ของเราจะช่วยสร้างประสบการณ์การสื่อสารที่ ‘hyper-personalized’ และในปี 2569 ที่จะถึงนี้ Crescendo Lab เตรียมนำ MAAC, CAAC , DAAC และบริการที่ปรึกษามาเสริมสร้างข้อได้เปรียบเชิง AI ให้ฝังอยู่ในกระบวนการธุรกิจทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกการสื่อสารกับลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรไทย” จิน เสวีย(JinHsueh), ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Crescendo Lab กล่าวปิดท้าย
