กิฟฟารีนเดินหน้าใช้ AI ช่วยเทรนนักธุรกิจกิฟฟารีน สร้างโมเดล Personalize Coaching มี Trainer 24 ชั่วโมง แบบ Real Time เปิดตัว AI โซลูชั่น “Giffarine AI Coach” เป็นผู้ช่วยนักธุรกิจกิฟฟารี
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิ
“ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน AI มีบทบาทในไลฟ์สไตล์ของผู้บริ
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 29 ปี กิฟฟารีนมียอดขายรวมอยู่ที่ 110,758 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากกิฟฟารีนมีความเข้าใจคนไทย ทั้งในเรื่องงานขาย และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามครบวงจร รวมถึงการปรับกระบวนทัพทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ใหม่ๆ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของกิฟฟารีน ทำให้การดำเนินธุรกิจปี 2568 ของกิฟฟารีนจะโฟกัสไปที่สถานการณ์เศรษฐกิจควบคู่กับการทำธุรกิจ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Health & Beauty ที่ยังเป็นเรือธง ทำยอดขายเติบโตสูงที่สุด รวมถึงการให้ความสำคัญในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของนักธุรกิจกิฟฟารีน และโดนใจผู้บริโภค
พญ.นลินี กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงปี 2568 ยังมีสัญญาณบวกจากเทรนด์ของตลาดสุขภาพและความงามที่ยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และเป็นธุรกิจที่ยังไปต่อได้โดยมูลค่าตลาดรวมธุรกิจขายตรง ที่ทางสมาคมการขายตรงไทยได้รวบรวมไว้ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 56,400 ล้านบาท ทำให้ปี 2568 กิฟฟารีนจะรุกทำตลาดเต็มสูบ โดยกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มและโอกาสเติบโตสูงของกิฟฟารีนยังคงเป็นกลุ่มสกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในกลุ่ม Longevity และเสริมภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่าง และผลิตภัณฑ์โปรตีนวีแกน
ขณะที่นายปริญญ์ บุญดีสกุลโชค CEO & Managing Partner ของ บริษัท ฟรอนทิส จำกัด กล่าวว่า ในยุคที่ AI พัฒนาอย่างก้าวกระโดด การนำ AI มาช่วยงานอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างความแตกต่าง หัวใจสำคัญคือการสร้าง ‘ความได้เปรียบจาก AI’ หรือ ‘AI Advantage ให้เกิดขึ้นจริงในธุรกิจ FRONTIS รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้คำปรึกษาและทำงานร่วมกับกิฟฟารีน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมองเห็นโอกาสนี้ก่อนใคร โดยเปลี่ยนโจทย์ความท้าทายให้กลายเป็นโซลูชัน ‘Giffarine AI Coach’ ซึ่งไม่เพียงเป็นเครื่องมือ แต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เสริมศักยภาพ Empower ให้นักธุรกิจกิฟฟารีนทำงานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยสร้างความแข็งแกร่งและโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ กรณีของกิฟฟารีนเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ในยุค AI Disruption นี้องค์กรที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนอาจไม่ได้ขึ้นกับขนาดใหญ่ที่สุดหรือเร็วที่สุด แต่คือผู้ที่ปรับตัวและสามารถผสานเทคโนโลยีเข้ากับกลยุทธ์และคนทำงานได้อย่างตรงจุด
ด้านนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกิฟฟารีนสู่อนาคตของธุรกิจขายตรงไทย ด้วยพลังของ AI กิฟฟารีนถือเป็นแบรนด์ MLM สัญชาติไทยรายแรกที่พัฒนา ‘Giffarine AI Coach’ ในรูปแบบ AI Agent เพื่อเสริมศักยภาพนักธุรกิจให้ทำงานและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลที่แม่นยำและการนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งยังช่วยเปิดโอกาสให้นักธุรกิจได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ขยายตลาดใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ไมโครซอฟท์เชื่อมั่นว่า AI จะเป็นพลังสำคัญสร้างอิมแพค และยกระดับกิฟฟารีนสู่การเป็น Frontier Firm ของธุรกิจขายตรงไทยในยุค AI อย่างแท้จริง
