“ซูเลียน” ตอกย้ำพลังธุรกิจขายตรงไทย เปิดโรงงานใหญ่ปีนัง โชว์ศักยภาพการผลิตระดับโลก ดันยอดขายครึ่งปีพุ่ง 18%

บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำธุรกิจขายตรงของไทยและอาเซียน เปิดโรงงานZhulian ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของกลุ่มบริษัทในระดับภูมิภาค เผยศักยภาพสายการผลิตสุดเข้มข้น ภายใต้การควบคุมคุณภาพระดับสากลที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงสินค้าสำเร็จรูป พร้อมเดินหน้าแผนรุกตลาดอาเซียนเต็มสูบ และขับเคลื่อนองค์กรสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจแห่งโอกาสที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง

ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานกรรมการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 28 ปี ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ความสำเร็จของซูเลียนเกิดจากความจริงใจในการดำเนินงาน การมอบโอกาสทางอาชีพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นคุณภาพสูง ภายใต้แนวคิด สร้างอาชีพ สร้างชีวิต” ปัจจุบัน ซูเลียนมีผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันครบทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, ผลิตภัณฑ์เพื่อบ้านและที่อยู่อาศัย, ผลิตภัณฑ์เพื่อร่างกาย และผลิตภัณฑ์ประเภทเข็มขัด

จุดแข็งสำคัญที่ทำให้ซูเลียนโดดเด่นเหนือคู่แข่ง คือการมีโรงงานผลิตของตนเอง ไม่พึ่งพา OEM โดยเฉพาะ โรงงาน Zhulianที่เมืองปีนัง ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 30,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น โซนเครื่องดื่มผง 20,000 ตารางเมตร และโซนผลิตอาหารเสริมสุขภาพ 5,000 ตารางเมตร ในขณะเดียวกัน โรงงานโฮมแคร์ (AMAZING VESTRAX SDN BHD) มีพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร และโซนผลิตขนาด 2,500 ตารางเมตร มีกำลังการผลิตเฉลี่ย อาหารและเครื่องดื่ม 800,000 ซองต่อวัน เช่น CoffeePlus Pack 84 ซอง ผลิตได้ราว 10,000 แพ็คต่อวัน ผลิตภัณฑ์โฮมแคร์: ผงซักฟอก7,000 กิโลกรัมต่อวัน และน้ำยาซักผ้า 6,000 ลิตรต่อวัน

ทุกกระบวนการผลิตอยู่ภายใต้มาตรฐานระดับโลก ได้รับการรับรองทั้ง GMP, HACCP, ISO9001:2015, ISO22000 และ HALAL การันตีคุณภาพด้วยระบบตรวจสอบที่เข้มข้น ทั้งการคัดเลือกวัตถุดิบ, กระบวนการผลิตแบบ semi-automated, การควบคุมคุณภาพด้วยเทคโนโลยี Bin Blenders, Auto Batching, ห้องแล็บตรวจสอบคุณภาพ รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

Mr. Danny Teoh Chief Executive Director, ZHULIAN CORPORATION BERHAD (ZCB) กล่าวว่า ความสำเร็จของซูเลียนในไทยตลอด 28 ปี เกิดจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้นำอย่าง Mr. Teoh Beng Seng ผู้ก่อตั้ง และ Mr. Teoh Meng KeatGroup CEO ประกอบกับความแข็งแกร่งด้านการผลิตและโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน อีกทั้งผลิตภัณฑ์คุณภาพ เช่น Zhulian CoffeePlus Ginseng Coffee, บียางค์เครื่องดื่มธัญพืชผสมผักผลไม้ และ ยาสีฟันSmile On ที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาโดยตลอด

เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ซูเลียนได้ปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลด้วยกลยุทธ์ O2O (Offline to Online) ผสานช่องทางขายตรงแบบดั้งเดิมกับแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างครบวงจร ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ Social Commerce ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Facebook, LINE Official พร้อมเสริมทัพด้วยอินฟลูเอนเซอร์ Virtual Engagement และการวิจัยตลาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงใจผู้บริโภคในทุกเจเนอเรชัน

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนขยายตลาดสู่ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จากเดิมที่ส่งออกไปไทยและกัมพูชา พร้อมแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในตลาดศักยภาพ เสริมความแข็งแกร่งด้วยโปรโมชั่นรักษาฐานลูกค้า และโปรแกรมฝึกอบรมตัวแทนให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังยกระดับการตลาดด้วยการเพิ่มอัตราการจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักธุรกิจจาก 68% เป็น 81% ของมูลค่า BV ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยของนักธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 20-30%

Mr. Danny Teoh เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2568 เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากพลังของนักธุรกิจซูเลียนทั่วประเทศ และการตอบรับที่ดีจากตลาดอาเซียนซึ่งยังมีศักยภาพเติบโตอีกมาก ซูเลียนยังคงเดินหน้า CSR อย่างจริงจัง โดยยกระดับแนวคิด CSR ผ่านการเปิดตัวตำแหน่ง MRCD (Master Royal Crown Director) ซึ่งให้นักธุรกิจมีสิทธิ์บริจาคเงินสูงสุด 3,250,000บาท ให้กับมูลนิธิหรือองค์กรสาธารณกุศลที่เลือกเอง นับเป็นการแปรความสำเร็จทางธุรกิจสู่การสร้างคุณค่าคืนสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังส่งเสริมให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้เป็นวัฒนธรรมองค์กร และมีโปรแกรมให้ผู้นำบริหารเงินบริจาคเพื่อกระตุ้นให้ตัวแทนลงมือช่วยเหลือสังคมจริง

ความสำเร็จและคุณภาพของซูเลียนยังได้รับการยืนยันจากรางวัลระดับสากลหลายสาขา ได้แก่

  • Asia Halal Brand Awards 2019 (Best Innovation)
  • Golden Bull Award 2020 (Outstanding SME)
  • The Brandlaureate World Halal Best Brands E-Branding 2021
  • Export Excellence Award 2022 (Most Promising)
  • Best Employer Award 2023จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ EPF

ดร.ปิยะวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลอด 28 ปีที่ผ่านมา ซูเลียนยึดมั่นในหลักการปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บทเรียนจากวิกฤตน้ำท่วมปี 2554 และโควิด-19 สอนให้ซูเลียนจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ พร้อมลงทุนในทรัพยากรบุคคล และขับเคลื่อนการตลาดด้วยดิจิทัลอย่างเต็มกำลัง

ความยั่งยืนทางธุรกิจไม่ได้วัดแค่ยอดขาย แต่ต้องมอบความหมายให้ชีวิตผู้คนได้จริง เราโปร่งใสทั้งสินค้า ระบบ และโอกาสทางธุรกิจ พร้อมเคียงข้างนักธุรกิจซูเลียนทุกคน เดินหน้าด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และการสนับสนุนที่ทันสมัย เพื่อก้าวสู่ความมั่นคงและยั่งยืนร่วมกัน”

Post Views332 Views
Share this post