เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) เปิดแนวคิด “Everyday Touchpoint Attention to Conversion” เครื่องมือสำหรับเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ในวงกว้าง พร้อมมุ่งสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ชูกลยุทธ์สำคัญเพื่อรองรับความต้องการสื่อโฆษณาที่วัดผลได้ของแบรนด์ยุคใหม่ ด้วยการผสานพลังของสื่อที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ทั้งสื่อรีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กที่ครอบคลุมโลตัสและแม็คโคร, สื่อโซเชียลมีเดียแบบเฉพาะบุคคล (Online Personalization), สื่อ KOLs, สื่อป้ายดิจิทัลนอกบ้านอัจฉริยะ (OOH-Adaptive Shoppers’ Digital Screen) และสื่อ On-Ground Activation โดยใช้ MediaFusion ระบบปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนด้วย Agentic AI วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคขนาดใหญ่ ช่วยแบรนด์และมีเดียเอเจนซีวางกลยุทธ์ไปจนถึงวัดผลแบบเรียลไทม์ ทำให้ปรับแผนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศได้ทุกโมเมนต์และทุกไลฟ์สไตล์ สร้างความสนใจและนำไปสู่ “การลงมือทำ” ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจแบบวัดผลได้จริง
นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Media Convergence บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ทุกวันนี้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างไร้ขีดจำกัด มีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้นักการตลาดคาดเดาพฤติกรรมของแต่ละบุคคลได้ยาก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในแต่ละช่องทางและแต่ละโมเมนต์ อีกทั้งผู้บริโภคคาดหวังประสบการณ์เฉพาะตัวที่ตอบโจทย์แบบเรียลไทม์ ทำให้นักการตลาดยุคนี้ต้องใช้ข้อมูลผู้บริโภคที่แม่นยำ เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจ สื่อสารในเวลาที่ใช่ ผ่านช่องทางที่ครอบคลุมทุกจุดที่ผู้บริโภคใช้ชีวิต ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้รีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กมีบทบาทอย่างมาก
เอ้ก ดิจิทัล พบว่าการใช้รีเทลมีเดียเน็ตเวิร์ก แบบ Omnichannel ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์ สามารถเปลี่ยน “ผู้เห็นโฆษณา” ให้กลายเป็น “ผู้ซื้อ” ได้ในอัตราส่วน 8 ต่อ 1 เมื่อเทียบกับอัตรา 66 ต่อ 1 ของโฆษณาที่ไม่ได้ใช้รีเทลมีเดียเน็ตเวิร์ก ตัวเลขสะท้อนถึง “พลัง Attention” ของรีเทลมีเดียเน็ตเวิร์ก เมื่อมีการออกแบบการทำงานร่วมกับสื่ออื่น ๆ อย่างแม่นยำ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของ Marketing Funnel ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าการสื่อสารที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างถูกที่และถูกจังหวะ สามารถเปลี่ยนการรับรู้ให้กลายเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่วัดผลได้ นอกจากนี้ผลสำรวจของ Nielsen ยังตอกย้ำถึงแนวโน้มบทบาทของรีเทลมีเดียเน็ตเวิร์ก โดยพบว่า นักการตลาดทั่วโลกกว่า 65% โดยเฉพาะทวีปเอเชียกว่า 68% มองว่ารีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กกลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนทางการตลาดและธุรกิจจากนี้ไป*
นายชัชพล กล่าวต่อว่า “เพราะแบรนด์ในยุคนี้ไม่ได้ต้องการแค่ให้ผู้บริโภครับรู้ แต่ต้องการให้พวกเขา ‘ลงมือทำ’ บางสิ่งกับแบรนด์ เช่น การคลิก, ตัดสินใจซื้อ, ซื้อซ้ำ หรือแชร์ต่อ เอ้ก ดิจิทัล จึงนำจุดแข็งที่ไม่มีใครเหมือนทั้งการผสานดาต้าเชิงลึก 720 องศาที่ใหญ่ที่สุดในไทย, MediaFusion แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย EGG AI Agent (Agentic AI) และเครือข่ายสื่อที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ทั้งรีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กจากโลตัสและแม็คโคร ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของชุมชนทั่วประเทศ, สื่อโซเชียลมีเดียแบบเฉพาะบุคคลที่ปรับการทำงานระหว่างทางได้ตลอด, สื่อ KOLs ที่สร้างคอนเทนต์ได้ตรงใจจากข้อมูลเชิงลึก, สื่อป้ายดิจิทัลนอกบ้านอัจฉริยะที่สามารถปรับโฆษณาได้ตามสถานการณ์ของแบรนด์ในแต่ละวัน และสื่อ On-Ground Activation นำมาพัฒนาแนวคิด ‘Everyday Touchpoint Attention to Conversion’ เพื่อเปลี่ยนพื้นที่โฆษณาให้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในทุกช่วงเวลา พร้อมทำให้ทุกทัชพอยท์ที่ผู้บริโภคเห็นโฆษณากลายเป็นจุดสร้าง ‘ความสนใจ’ และนำไปสู่ ‘การลงมือทำ’ ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจที่มีมูลค่าให้กับแบรนด์และนักโฆษณา”
3 กลยุทธ์ภายใต้แนวคิด “Everyday Touchpoint Attention to Conversion” ขับเคลื่อนธุรกิจ Media Convergence
- Measurable Touchpoints Expansion ขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาจากโลตัสไปยังแม็คโคร ก้าวเป็นผู้ให้บริการรีเทลมีเดีย เน็ตเวิร์กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเข้าถึงประชากรไทยกว่า 70% ครอบคลุมทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งทุกทัชพอยท์ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกที่สามารถวัดผลได้จริง พร้อมพัฒนา Media Inventories ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่โฆษณา แต่เป็นเครื่องมือโฆษณาอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ AR, AI และระบบ Robotic เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการประสบการณ์เฉพาะบุคคล ปรับแต่งได้แบบเรียลไทม์ (Real-Time Optimization) และวัดผลได้จริง
- Autonomous Media Intelligence ใช้ MediaFusion ระบบปฏิบัติการครบวงจร ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก 720 องศาและ EGG AI Agent ในการวางกลยุทธ์สื่อสารได้รวดเร็วขึ้น 5 เท่า, สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีความครีเอทีฟและตรงใจ, ดำเนินการสื่อสารได้อย่างแม่นยำผ่านช่องทางที่เหมาะสมที่สุด เข้าถึงได้ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา พร้อมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ปรับแต่งให้เฉพาะบุคคล รวมถึงดำเนินการวัดผลได้อย่างอัตโนมัติและต่อเนื่อง โดยนายเมธิศร์ มุกดาสิริ Head of Industry ของ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า “โฆษณาที่สร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้ให้กับผู้โฆษณา มีความสำคัญต่อ Meta ทางบริษัท EGG Digital ได้ใช้ประโยชน์จาก Conversions API และ Omnichannel Ads ของ Meta เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการโฆษณา (ROAS) ได้ถึง 61% แสดงให้เห็นว่าธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีได้”
- Phygital Full-Funnel Impact ยกระดับบทบาทของรีเทลมีเดียจากเดิมที่ถูกมองว่าเป็นแค่สื่อโฆษณา ณ จุดขาย สู่เครื่องมือการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ในวงกว้างแบบมีความหมาย ที่เรียกว่า Power of Attention โดยหัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้ คือการเปลี่ยนการรับรู้ให้กลายเป็นความสนใจที่นำไปสู่การสร้างอิมแพคให้เกิด Conversion และ Loyalty ระยะยาว
“รีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กที่ผสานพลังของช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค สามารถสร้างอิมแพคได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สื่อได้มากกว่า 61% ลดงบที่สูญเปล่า และสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจผู้บริโภคแต่ละบุคคลในทุกช่วงเวลา ซึ่งบริการรีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กของเรารองรับได้ทุกอุตสาหกรรมทั้งธุรกิจ FMCG ที่มีสินค้าจำหน่ายในโลตัสและแม็คโคร รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่น อสังหาฯ การเงิน ประกัน สุขภาพ และความงาม เราเชื่อว่าพลัง ‘Attention’ ของรีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กที่ถูกวางไว้อย่างแม่นยำ จะสามารถสร้างอิมแพคให้กับแบรนด์เปลี่ยน ‘ความสนใจที่นำไปสู่การลงมือทำ’ และวัดผลได้จริง” นายชัชพล กล่าวทิ้งท้าย
